การจัดจ้างก่อสร้างเป็นกลไกสำคัญของรัฐในการแปรเปลี่ยนงบประมาณให้เป็นประโยชน์สาธารณะ ผ่านการสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการดำรงชีวิตของประชาชนโดยตรง ความถูกต้อง โปร่งใส และประสิทธิภาพในการดำเนินงานจ้างก่อสร้างจึงไม่เพียงเป็นเรื่องของความคุ้มค่าในเชิงงบประมาณ หากแต่เป็นหน้าที่ที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อภาครัฐ ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และแบบสัญญาจ้างก่อสร้าง กำหนดให้ฝ่ายผู้ว่าจ้างในนามของรัฐ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมงาน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ และผู้รับผิดชอบในการบริหารสัญญา มีหน้าที่สำคัญในการควบคุม ตรวจสอบ และใช้สิทธิตามสัญญาในนามของรัฐ หากเจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจบทบาทของตนอย่างถูกต้อง ไม่สามารถใช้สิทธิตามสัญญาได้อย่างครบถ้วน อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ และยังอาจต้องรับผิดชอบในทางวินัยหรือกฎหมายตามมา นอกจากความเข้าใจในบทบาทของฝ่ายผู้ว่าจ้างแล้ว การจัดจ้างก่อสร้างยังต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้องในกฎหมาย ระเบียบ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการตีความว่างานใดเป็นงานจ้างก่อสร้างตามแนวทางในหนังสือ ว259 การจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้างตามมาตรา 60 และระเบียบข้อ 21 วรรคสาม การจัดทำร่างรายละเอียดขอบเขตของงานทั้งโครงการตามแนวทางในหนังสือ ว159 การจัดทำราคากลางและใบแจ้งปริมาณงานตาม ว232 ตลอดจนการควบคุมงานตามมาตรา 101การบริหารสัญญาตามมาตรา 100 การบอกเลิกสัญญาตามมาตรา 103 และการพิจารณาเป็นผู้ทิ้งงานตามมาตรา 109 อันล้วนเป็นสาระที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและรอบด้าน หน่วยงานของรัฐจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาในการจัดหาแบบก่อสร้าง เนื่องจากขาดแคลนวิศวกรหรือสถาปนิก ทำให้การจัดทำแบบ รูปรายการ และเอกสารประกอบไม่อาจดำเนินการได้โดยสมบูรณ์ตามบทบัญญัติของกฎหมาย ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการจัดจ้างในภาพรวม และนำไปสู่ปัญหาในการควบคุมงานในภายหลัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายผู้ว่าจ้างได้อย่างถูกต้องตามบทบาทหน้าที่ ใช้สิทธิในสัญญาได้อย่างมั่นใจ และสามารถควบคุม ตรวจรับ และบริหารสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ศูนย์นวัตกรรมการก่อสร้างและเทคโนโลยีวัสดุอุเทนถวาย คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ร่วมกับสถาบันฝึกอบรมโยธาไทย (Yotathai Training) ได้จัดโครงการอบรมเชิงวิชาการ“การจัดจ้างก่อสร้าง การบริหารสัญญา และการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้าง เพื่อประโยชน์สูงสุดในการจัดทำบริการสาธารณะ” ขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ ทักษะ และแนวคิดเชิงระบบให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหน้าที่ในงานจ้างก่อสร้าง เพื่อให้สามารถใช้กฎหมาย ระเบียบ และแบบสัญญาได้อย่างถูกต้อง สอดคล้อง และบรรลุประโยชน์สาธารณะได้อย่างแท้จริง

วันที่ 1

• ความหมายของงานจ้างก่อสร้าง และความสำคัญในฐานะบริการสาธารณะของรัฐ

• การตีความงานจ้างก่อสร้างตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว259

• กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานจ้างก่อสร้าง

• ค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0402.5/ว85

• การส่งเสริมพัสดุภายในประเทศกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

• แนวทางปฏิบัติในกรณีหน่วยงานของรัฐขาดแคลนวิศวกรหรือสถาปนิกในการจัดทำแบบก่อสร้าง

• การจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้างตามกฎหมาย

• แนวทางการจัดทำร่างรายละเอียดขอบเขตงานทั้งโครงการตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.4/ว159

วันที่ 2

• ราคากลางงานก่อสร้าง และการจัดทำใบแจ้งปริมาณงานแนบท้ายสัญญาจ้างก่อสร้างตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.3/ว232

• การควบคุมงานของฝ่ายผู้ว่าจ้าง ตามมาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างฯ และระเบียบกระทรวงการคลัง ข้อ 178

• การบริหารสัญญาและการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้าง ตามมาตรา 100 และระเบียบกระทรวงการคลัง ข้อ 176

• สัญญาจ้างก่อสร้างตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด ตามมาตรา 93

• การแก้ไขสัญญา ตามมาตรา 97 และระเบียบกระทรวงการคลัง ข้อ 165

วันที่ 3

• แนวทางในการพิจารณาแผนการทำงานของผู้รับจ้าง

• การติดตามงานตามแผนงานและผลงานสะสม

• การประเมินผลงานเพื่อประกอบการเร่งรัดหรือพิจารณาความล่าช้า

• แนวทางการเร่งรัดตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว124

• การบอกเลิกสัญญาจ้างก่อสร้าง ตามมาตรา 103

• การพิจารณาเป็นผู้ทิ้งงาน ตามมาตรา 109

• แนวทางปฏิบัติภายหลังการบอกเลิกสัญญา ตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว108

• การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการร่างหนังสือราชการ การจัดทำรายงานการประชุม และการวิเคราะห์ข้อโต้แย้งในงานจ้างก่อสร้าง

หมายเหตุ

มีคลังความรู้ข้อมูลเรื่องการจัดทำราคากลางให้ผู้เข้าอบรมเข้าใช้งานเพิ่มพูนความรู้ได้ต่อเนื่องและมีกลุ่มไลน์ ให้คำปรึกษาสำหรับผู้เข้ารับการอบรม (ขอสงวนสิทธิ์ให้สำหรับผู้ผ่านการอบรมเท่านั้น)

ค่าลงทะเบียน 

> ส่วนราชการ อปท. และเอกชน ค่าลงทะเบียนท่านละ 5,000 บาท

ชำระเงินล่วงหน้า (ก่อนวันอบรม 2 วัน) ลดเหลือท่านละ 4,300 บาท

> ค่าลงทะเบียนรวม อาหารกลางวันและอาหารว่าง

(กรณีส่วนราชการสามารถเบิกจ่ายค่าลงทะเบียนได้เต็มจำนวนตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2555 ในกรณีหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นสามารถเบิกจ่ายค่าลงทะเบียนได้ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมและการเข้ารับ

การฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พ.ศ. 2557 หมวดที่ 2 ส่วนที่ 2 ข้อ 28 (1) การฝึกอบรมที่อปท.จัดหรือหน่วยงานอื่นของรัฐจัดหรือร่วมกันจัดให้เบิกจ่ายจริงในอัตราที่หน่วยงานผู้จัดเรียกเก็บ และสามารถเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พัก หรือค่าพาหนะของผู้เข้าอบรม ได้ตามข้อ 29 ของระเบียบเดียวกัน ซึ่งกำหนดให้เบิกจ่ายโดยการอนุโลมตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 

พ.ศ. 2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561)

หมายเหตุ : ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยง ให้ผู้เข้าอบรมเบิกจากหน่วยงานต้นสังกัด

ใบเสร็จรับเงินออกให้โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก

***ส่วนลดเพื่อการบริหารจัดการเท่านั้น ไม่ได้ลดส่วนตัวให้กับผู้สมัครอบรม***

***ออกใบเสร็จเท่ากับยอดเงินที่โอนจริงเท่านั้น ส่วนลดไม่ได้ลดให้ผู้เข้าอบรม***

​1. กรอกข้อมูลสมัครอบรม ตามแบบฟอร์ม ด้านล่าง

2. โยธาไทยเทรนนิ่ง ส่งหนังสือเชิญ กลับไปให้ท่านทาง E-mail หรือ ท่าน Download เอกสาร ได้เอง จาก ด้านบน

3. ท่านส่งหนังสือยืนยันเข้าอบรมกลับมายัง โยธาไทยเทรนนิ่ง

> Email : training@yotathai.com

> Line ID :@Yotathai ​(มี@นำหน้า)

4. ชำระเงินค่าลงทะเบียน โดยโอนเงินมาที่

ธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย

เลขที่บัญชี 017-0-31716-1

ชื่อบัญชี บริษัทโยธาไทยเทรนนิ่ง จำกัด

​

5. ส่งหลักฐานการโอนเงิน

> Email : training@yotathai.com

> Line ID : @Yotathai (มี@นำหน้า)